หนังไทยทำเงินน้อย ถ้าหากว่ามี หนังที่ทำรายได้สูงแล้ว อย่างไรก็ต้องมีหนัง ที่ทำรายได้ออกมาน้อย อย่างแน่นอนหล่ะครับ

หนังไทยทำเงินน้อย หนังบางเรื่องทำออกมาดี แต่รายได้ต่ำก็มี หนังทำมาไม่ได้หวือหวา อะไรมากมายนั้น บางทีก็กลับทำรายได้เยอะซะงั้นก็มี หนังนอกกระแส ที่ตอนฉายทำรายได้ต่ำ แต่กลับมาดังอย่างมาก ในตอนหลังอีกหลายปีก็ยังมี เพราะเหตุนี้ หนังที่ทำออกมา จึงอยู่ที่จังหวะ ของกระแสต่าง ๆ ในตอนนั้นนั่นเอง หรือเข้าถึงผู้คน ที่เป็นเป้าหมาย ถ้าตรงกับเป้าหมายในช่วงนั้น ๆ

รับรองว่า ยังไงหนังเรื่องนั้น ก็สามารถฉายและได้เงิน อย่างแน่นอนทีเดียวหล่ะครับ มาดูในด้สนของหนังไทย ที่ตั้งแต่ฉายมา ก็ทำเงินได้น้อยเหลือเกินครับ มาที่เรื่องแรกเลยกับ สาป ซ่อน ศพ ที่ได้ออกมาฉายเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2562 ที่ได้รายได้ไปแค่ 65,000 บาทเองครับ

เรียกได้ว่าน้อยมาก ๆ เลยที่เดียว ต่อมาที่เรื่อง จี้ 2 ที่เข้ามาฉายเมื่อ 24 มกราคม พ.ศ.2562เช่นกัน และในการออกฉาย ก็ทำรายได้ไปเพียง 35,000 บาทเท่านั้น เรื่องส้วมซ่อนผี ที่ฉายเมื่อ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2562 และได้ทำรายได้แค่ 33,000 บาทครับ ดูหนังออนไลน์ล่าสุด

เรื่องต่อไปครับ เกมคนรวย ได้เข้าฉาย 3 ตุลาคม พ.ศ.2562ครับ รายได้ไปทั้งหมด 32,000 บาทเท่านั้น เรื่องต่อมาคือ สุขสันต์วันเกิดครับพ่อ ฉายเมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ.2562ได้ยอดรายได้ไปแค่ 18,000 บาทเองครับ ต่อมาที่ เลว 2018 หนังที่ฉายเมื่อ 12 ธันวาคม พ.ศ.2562

และได้ทำรายได้ไป 14,000 บาทเท่านั้นเอง ต่อมาคือ คืนรัง หนังที่ฉายในวัน 11 กรกฎาคม พ.ศ.2562 รายได้จากการฉาย 9,470 บาทเท่านั้น ต่อไปที่เรื่อง รักล้นใจ ที่ฉายเมื่อวันที่7 พฤศจิกายน พ.ศ.2562 ทำรายได้จากการฉาย 9,385 บาทครับ

และมาที่หนังไทยในปีนี้ เรื่องสุดท้ายที่ทำเงินได้ น้อยอย่างมากคือเรื่อง ๗๗๗ นะชาลีติ ที่ได้ฉายไปเมื่อ 3 มกราคม พ.ศ.2562ครับ ทำรายได้จากการฉาย ไปได้แค่เพียง 3,390 บาทซึ่งน้อยมาก ๆ เลยหล่ะครับ และเคยออกข่าวว่า ตอนฉายในกรุงเทพนั้น

ได้ยอดตั๋วไปแค่ 4,900 บาทเท่านั้นเองหล่ะครับ ซึ่งยอดผู้ชม ที่ออกตั๋วในโปรแกรมนั้นแค่ 43 คนเองหล่ะครับ บอกเลยว่าเป็นยอดที่น้อยมาก ๆ สำหรับการฉายหนังเลยครับ พูดตรงนี้เลยว่า เป็นหนังไทย ที่คนไทยส่วนใหญ่ อาจไม่เคยรู้เลย

ว่าได้เข้าฉายด้วยหรอ มีเรื่องไหนที่ พอจะคุ้นมั่งไหมล่ะครับ อาจจะเป็นสาเหตุไม่ว่าจะเป็น เรื่องการโปรโมท หรือว่าตัวหนังนั้น ยังขาดจุดสนใจก็ตามที ทำให้หนังเหล่านี้ ทำรายได้ไปเพียงแค่นั้นครับ

หนังไทยทำเงินน้อย ซึ่งที่จริงแล้วนั้น คงเป็นวิกฤติเรื้อรัง ที่ส่งต่อมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2561

ซึ่งในปีนั้นนอกจาก ฉลาดเกมโกง ที่ทำรายได้ไป 112 ล้านบาทแล้วนั้น หนังไทยเรื่องอื่น ๆ แทบจะรายได้น้อยกัน แทบจะทั้งหมดเลยทีเดียวครับ และหนังที่จะกล่าวถึงอีก ของที่อยู่ในปีก่อน ที่จะเกิดวิกฤติต่อเนื่องนั้นบอกเลยว่า หนังโกล์

ไม่ต้องหักลบกำไร ขาดทุนอะไรเลย เพราะทำรายได้ไปแบบน้อยมาก หนังนั้นไม่แตะ 1 แสนบาทเลยครับ เรียกได้ว่า เจ็บกันไปทั่วหน้า ซึ่งจะมีเรื่อง หมวยจิ้นดิ้นก้องโลก ที่ทำไปทั้งหมด 29900 บาทเองครับ ต่อมาก็คือ หล่อลากไส้ ทำรายได้ไปที่ 50000 บาทครับ

เรื่องต่อไปก็เรื่อง เด็กสาว ที่ตั้งแต่ฉายก็ได้ไปที่ 56000 บาทเท่านั้น เรื่องเก๋าเกรียน ก้ทำรายได้น้อยตามกันที่ 57000 บาทครับผม และเรื่องสุดท้าย ที่จะดูรายได้สูงสุดแล้ว ก็ทำรายได้ไปแค่เพียง 60000 บาทเองหล่ะครับ พูดได้ว่าขาดทุนกันแบบสุดโต่ง

แต่ก็ยังได้ยอดมากกว่าในปีต่อมา 2562 อยู่เพียงหน่อยเดียวเท่านั้น และมันก็ลากยาวมาเลยครับ เป็นช่วงปีที่หนังไทย รายได้ออกมาแล้วโดยรวม บอกได้คำเดียวว่า แย่สุด ๆ เพราะเหตุใด และทำไมหนังไทยถึง ไม่ค่อยมีคนเข้าไปดู กันมากเท่าไหร่นักครับ

เหตุผลหลักที่ชาวไทยนั้น ไม่ค่อยจะดูหนังไทย ก็คงจะเป็นเรื่องเดิม ๆ แม้เปรียบเทียบความคุ้มราคา ที่จะต้องชำระเงิน ในราคา 150 – 200 บาทแล้ว หนังที่มาจากจาก ฮอลลีวูด คงจะสร้างความคุ้มมากกว่า หรือถ้าเกิดจะขยี้ในประเด็น

คงจะเป็น คอนเทนต์ ของหนังไทยมากยิ่งกว่า เอาง่าย ๆ ว่า 80% ในความรู้สึกของคนดู คงไม่ดีพอ ที่จะเสียตังค์ซื้อตั๋ว เข้าไปดูกันครับ พอทำธุรกิจแต่เกิดขาดทุน ใคร ๆ นั้นก็ไม่ต้องการ ที่จะทำครับ หนังไทยในตอน 2 -3 ปี เริ่มจะเข้าฉายในโรงหนัง

นั้นเรียกว่าลดลงตลอด จะเหลือแค่จำพวก ตัวเก็งเท่านั้น ที่เป็นการคาดการณ์ว่า อาจจะโกยรายได้ไปเท่านั้น ที่กล้าทำออกมาฉายครับ และที่ผ่านมามีเพียงแต่ 9 ศาสตราเท่านั้น ที่ฉายในตอน ม.ค.ทำรายได้เกิน 100 ล้านบาท ต่อมาก็คือ ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2 Part I รายได้ราว ๆ 50 ล้านบาท

ที่เป็นหนังเจาะผู้ชมชนบท หรือแม้กระทั้ง เรื่องหลวงพี่แจ๊ส 5G ที่โรงหนังช่วยเหลือกันสุดเหวี่ยง ด้วยการเทรอบ ในการฉายหนังกันซ้ำ ๆ ก็ยังทำรายได้ ไปไม่ถึง 20 ล้านบาทด้วยซ้ำไปครับ ที่เห็นก็คงจะมีแค่หนังของ GTH ที่โกยรายได้ไปเยอะเท่านั้นมั้งครับ

อย่างเรื่อง ATM เออรักเออเร่อ หรือ แอมฟายแต๊งกิ๊ว เลิฟยู ที่หนังนั้นชัดเจนกับเรื่อง และตรงเป้าหมายเท่านั้น ที่ยังออกฉาย แล้วกอบโกยรายได้ไปครับ แต่ถึงอย่างไร หนังทุกเรื่องก็จะมีเรื่องราวของมัน ดูอย่างไม่เครียด ดูอย่างสนุก แล้วท่านก็จะเพลิดเพลิน ไปกับหนังและเรื่องราว ของมันเองหล่ะครับ